2/05/2010

แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน ......... ใคร เคยทำกับแม่แบบนี้บ้าง ?

นำมาจากเวปบอร์ดแห่งหนึ่งครับ

ทุกวัน ฉันต้องตื่นเช้า เข้างานแปดโมง วันนี้..ก็เหมือนเคย
แต่เมื่อคืนฉันทำงานจนดึก
ตื่นสาย.. อารมณ์ตอนนั้น โมโหตัวเองมาก ที่ลืมตั้งนาฟิกาปลุก
(โดนเจ้านายด่าแน่ๆ )
แม่มาเคาะประตูห้อง ... " ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว "
ฉันหงุดหงิดมาก ........... โธ่ !! แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกหนูให้เร็วกว่านี้
เนี่ย..หนูไปทำงานไม่ทันแล้ว วันนี้..มีประชุมด้วย
" แม่ทำข้าวต้มให้หนูอยู่ เมื่อคืนเห็นนอนดึก
อยากให้กินอะไรร้อนๆหน่อย " ........
แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กง ไม่กินมันแล้ว
....แม่จับแขนฉันเบาๆก่อนเดินออกจากห้อง
อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง แม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
" กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกนะ แม่รอหนูอยู่ "
หนูไม่กิน พูดโดยไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที
ถึงที่ทำงาน
" ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุม แล้วรายงานอยู่ไหน "
ยกมือไหว้ .. ขอโทษค่ะพี่ ...รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
" พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ เดี๋ยวช่วยไปหาอะไรให้พี่กินหน่อ ยสิ " ...
ได้ค่ะพี่ ...
วิ่งเข้าห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป รีบ รีบ รีบ เติมน้ำร้อน ..
ว๊า !! น้ำร้อนลวกมือ ..
มาแล้วค่ะพี่ โจ๊กร้อนๆเลยค่ะ....
ออกจากห้องประชุมเกือบเที่ยง แม่โทรมาจากบ้าน
" เมื่อเช้า.. หนูวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก แม่หาในตะกร้าไม่เจอ
จะเอาไปซักน่ะ "
หาไม่เจอก็ไม่ต้องซักหรอก หนูจำไม่ได้ คงโยนไว้ที่ไหนน่ะแหละ เมื่อเช้าหนูรีบ .......
" ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้..กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ”
ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่
ยังงัย..แม่กินไปก่อนเลยแล้วกัน ไม่ต้องรอ .....
วางหูโทรศัพท์ ก้มหน้า ก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย ....
"เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า ไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหน หาไม่เจอ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูช่วยหา
พี่ลงไปทานข้าวเถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้วนะคะ
... หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
โธ่..พี่ขา ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้ในห้องประชุมนี่นา
โอย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ
ไม่เป็นไร..บะหมี่ซักห่อพออิ่มก็แล้วกัน
...พี่คะ
เจอแล้วนะคะ พี ่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมค่ะ
" อ้าว..เหรอ " รับเอกสารคืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ
แต่ฉันกลับปลื้ม ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้ ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
" ช่วยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย พี่กลับก่อนล่ะ
ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับช้านิดนึงนะวันนี้ "
.. ยิ้มรับ.. ไม่มีธุระอะไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูพิมพ์ให้เลยค่ะ
โทรหาเจ้านายตอนเกือบทุ่ม .. พี่ขา หนูแก้ไข และตรวจทานเรียบร้อยแล้วค่ะ
หนูวางไว้บนโต๊ะนะคะ
" กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือ กินข้าวก่อนล่ะ ?? "
...เงียบไม่มีเสียงตอบ
ไม่มีรอยยิ้ม ...
" มา มา แม่ช่วย " แม่รวบของจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ ..
หนูเหนื่อยมากเลยแม่
หนูอยากพักผ่อน
กำลังจะเดินขึ้นห้อง ..
ฮัลโหล..สวัสดีค่ะ..เจ้านายเหรอคะมีอะไรรึเปล่าคะ ..
อ๋อ !! ไม่ยุ่งค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้เลยค่ะ
กุลี กุจอ เปิดคอมพิวเตอร์ ... เจ้านายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ
แม่..หายไปไหน ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี
. . . แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงา ๆ คนเดียว . . .

แม่แอบร้องไห้ ... เ พราะฉันสินะ ฉันทำให้แม่ต้องร้องไห้
แม่..ดูแลฉันมาทั้งชีวิต
เป็นห่วงฉัน รักฉันมากกว่าใครๆ
แต่..ฉันตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน
ฉันเริ่มทบทวน... เจ้านายคนที่ให้เงินเดือนฉัน กับ แม่คนที่ให้ความเป็นคนแก่ฉัน
เพื่อประจบสอพลอเจ้านาย ฉันทำร้ายผู้ให้กำเนิดได้เพียงนี้เลยหรือ..
แม่ ...
หนูขอโทษ
ใคร??? เคยเป็นแบบฉันบ้าง ......

ใน ชั่วชีวิตของคุณ คุณอาจจะเปลี่ยนงานหลายๆ ครั้ง คุณอาจจะมีเจ้านายนับไม่ถ้วน
แต่ตลอดชีวิตของคุณ.....คุณมีแม่มีเพียงคนเดียวค่ะ คนเดียวจริงๆ ทำดีกับท่านไว้เถอะค่ะ
อย่าทำให้ท่านต้องร้องไห้เพราะการกระทำของคุณเลย....คุณอาจจะรักท่านน้อยลง ทุกๆ วัน
แต่ท่านไม่เคยรักคุณลดลงเลย ตรงกันข้ามท่านกลับรักและเป็นห่วงคุณมากขึ้นทุกๆ วัน....




9/17/2009

คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี

ทราบหรือไม่ว่า คนแบบไหนที่ต้องเพิ่มวิตามินซีให้ตัวเองด่วน! วันนี้มีมาฝาก..

วิตามินซี เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายอีกชนิดหนึ่ง ที่ช่วยปกป้องเซลล์และสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง แถมยังช่วยเยียวยาร่างกายจากการบาดเจ็บ ช่วยให้ร่างกายต่อต้านการอักเสบ และ ป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

โดยทั่วไปแล้ววิตามินซีพบได้ในอาหารจำพวกผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ส้มสุกลูกไม้ต่าง ๆ ยิ่งในยุคสมัยใหม่อย่างนี้ก็มีผู้ผลิตนำมาอัดเม็ด เป็นอาหารเสริมจำหน่ายกันมากมายในปริมาณต่าง ๆ กันไป

นอกจากที่ว่าคนทั่วไปต้องการวิตามินซีแล้ว คนบางกลุ่มที่สุขภาพไม่ค่อยดี หรือมีความจำเป็นต้องได้รับอาหารเสริมวิตามินซีเพิ่มขึ้นมากกว่าคนทั่วไปก็มีเช่นกัน

- กลุ่มคนที่สูบบุหรี่ 


- กลุ่มคนที่เตรียมตัวผ่าตัด หรือเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด


- ผู้ป่วยที่มีไตเทียม 


- คนที่อยู่ในสถานที่อากาศเย็นเป็นเวลานาน 

ใครที่อยู่ในข่ายเหล่านี้ ก็อย่าลืมหาอาหารที่มีวิตามินซี เป็นส่วนประกอบมาทานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดี

น้ำยาบ้วนปาก จำเป็นหรือไม่?

การแปรงฟัน เป็นวิธีป้องกันโรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบที่ได้ผลที่สุด ทันตแพทย์จึงแนะนำให้แปรงทุกครั้งหลังอาหาร ซึ่งในความจริงเป็นไปได้ยาก แต่มีสิ่งหนึ่งที่จะช่วยได้คือ การบ้วนปาก โดยวิธีที่ได้ผลคือ การดันกระพุ้งแก้มให้น้ำเคลื่อนไปด้านซ้าย และด้านขวา หน้าและหลัง บ้วนปากเช่นนี้ซ้ำ 2-3 ครั้ง จะรู้สึกว่าช่องปากสะอาดขึ้นมาก แต่หลายคนเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้นด้วยน้ำยาบ้วนปาก ซึ่งในท้องตลาดก็มีหลายชนิดจำเป็นต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและไม่เกิดอันตราย
ต่อช่องปากและฟันเป็นหลัก ดังนี้  

น้ำยาบ้วนปากที่ช่วยให้ปากสดชื่น
    
        ส่วนผสมที่สำคัญในน้ำยาบ้วนปากคือ ยาฆ่าเชื้อโรคและสารที่ทำให้มีกลิ่นหอม ช่วยให้ลมปากสดชื่น แต่จะมีผลแค่ชั่วคราว เพราะเชื้อในช่องปากมีหลายชนิดและยาฆ่าเชื้อที่ใส่ลงไปก็มีฤทธิ์ในการทำลายเชื้ออย่างอ่อนๆ เท่านั้น อีกอย่างมีรายงานว่า ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่เข้มข้นเกินไปติดต่อกันเป็นระยะเวลานานหรือใช้น้ำยาบ้วนปากที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียแบบเข้มข้นสูงเกินไป ล้วนอาจทำให้สมดุลในช่องปากเสียไป และอาจเกิดความผิดปกติของเนื้อเยื่อในช่องปากได้ น้ำยาอมบ้วนปากที่ผสมฟลูออไรด์ช่วยป้องกันการเกิดฟันผุได้

        ปกติเราได้รับฟลูออไรด์จากอาหารที่กินและน้ำที่ดื่มอยู่แล้ว และการใช้ฟลูออไรด์ที่ได้ผลดี ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพที่สุดเห็นจะเป็นการใช้ในรูปของยาสีฟันเพราะเราใช้เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ส่วนการใช้น้ำยาบ้วนปากที่ผสมฟลูออไรด์หลังการแปรงฟันแม้มีรายงานว่า สามารถลดการเกิดฟันผุได้ แต่หากได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปหรือเกิดการสะสมก็อาจส่งผลเสีย เช่น ทำให้ฟันตกกระ มีความผิดปกติในการสร้างกระดูกได้ เป็นต้น

น้ำยาบ้วนปากที่ช่วยลดแบคทีเรียในช่องปาก
        ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มียาฆ่าเชื้อแบคทีเรียในผู้ป่วยที่มีเหงือกอักเสบลุกลามหรือผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโรคเหงือกโดยวิธีผ่าตัด เพื่อให้แผลผ่าตัดหรือเหงือกอักเสบหายเร็วขึ้น การใช้น้ำยาบ้วนปากประเภทนี้จึงควรใช้เมื่อทันตแพทย์แนะนำเท่านั้น

น้ำยาบ้วนปากที่ผสมคลอเฮกซีดีน (Chlorhexidine)
      มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการเกิดแผลในช่องปาก ช่วยลดการเกิดฟันผุและบรรเทาอาการเจ็บคอได้ แต่ข้อเสียคือน้ำยาจะขมมากและหากใช้ติดต่อกันนานๆ มักทำให้เกิดคราบสีเหลืองปนน้ำตาลบนตัวฟัน และอาจทำให้การรับรสอาหารเสียไปด้วย

น้ำยาบ้วนปากที่สารสกัดจากสมุนไพร
      สารสกัดจากพืชหรือสมุนไพรช่วยให้มีกลิ่นหอมและรสชาติดีขึ้น ช่วยระงับกลิ่นปาก และช่วยลดการอักเสบในช่องปากได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อโรคและช่วยลดการเกิดคราบจุลินทรีย์ได้บ้างเช่นกัน

น้ำยาบ้วนปากที่ใช้ก่อนแปรงฟัน
      น้ำยาชนิดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คราบจุลินทรีย์อ่อนตัวและหลุดออกง่าย โดยใช้อมก่อนการแปรงฟันเพื่อช่วยให้การแปรงฟันมีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่จากรายงานในวารสารทันตแพทย์พบว่าการใช้ในกลุ่มทดลองไม่มีผลแตกต่างจากผู้ที่ไม่ได้ใช้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังบ้วนปากไม่ได้ดีนักยิ่งไม่เหมาะและไม่จำเป็น
    
        การใช้น้ำยาบ้วนปากที่ดี ต้องใช้ปริมาณที่พอเหมาะ อมกลั้วปากให้นานพอ มีความถี่ในการใช้สม่ำเสมอเพียงพอจึงจะได้ผลเต็มที่ ที่สำคัญน้ำยาบ้วนปากที่ทำออกมาขายในลักษณะที่มีความเข้มข้นมาก ก่อนใช้ต้องผสมน้ำให้เจือจาง มิฉะนั้นจะเกิดอาการแสบร้อนชา และไม่รับรู้รสชาติสักพักหนึ่ง

7 เทคนิคในการผ่อนคลายตัวเอง

ในโลกปัจจุบันนี้ หลายๆคนคงต้องเผชิญกับความเครียดและแรงกดดันต่างๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้        

       การหาหนทางที่จะผ่อนคลายตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน้ต่อร่างกายและจิตใจของเราเป็นอย่างมาก บางคนอาจเข้าสปา ไปนวดหน้านวดตัว บางคนไปเที่ยว ซึ่งต่างก็มีวิธีการที่แตกต่างกันไป แต่ความลับของการผ่อนคลายที่แท้จริงก็คือ การควบคุมภาวะจิตใจของเรานั้นเอง ถ้าคุณขาดการควบคุมจิตใจแล้ว การเข้าสปาที่ดีที่ การเที่ยวที่ที่สวยที่สุด ก็ไม่สามารถทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้เลย

เทคนิคการผ่อนคลายตนเอง
1.   ปัจจุบัน คือสิ่งที่สำคัญที่สุด - บ่อยแค่ไหนที่คุณมักจะพบว่าคุณเป็นกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น คนส่วนมากมักจะมีความวิตกกังวลในเรื่องของอนาคต แต่ในความเป็นจริงแล้วการวิตกกังวลไป ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มักจะอยู่ในโลกแห่งอดีตหรืออนาคต คุณก็จะไม่สามารถผ่อนคลายได้เลย ฉะนั้นถ้าคุณต้องการผ่อนคลายอย่างแท้จริงคุณจะต้องมีสติอยู่กับปัจจุบัน เราเท่าทันตนเองอยู่เสมอ

2.   สิ่งแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญ - ที่ที่คุณอยู่ หรือสภาพแวดล้อมที่คุณต้องเจอก็ส่งผลต่อจิตใจของคุณเช่นเดียวกัน หลายๆคนอาจไม่ได้ตระหนักถึงปัจจัยนี้ แต่ถ้าสังเกตให้ดี การอยู่มรบางที่ มันก็ยากที่จะรู้สึกผ่อนคลายได้ คราวนี้ เริ่มมองไปที่รอบตัวคุณ ถ้าคุณเห็นสิ่งที่คอยเตือนใจให้คุณทำโน่นทำนี้ คุณคงต้องลงมือทำอะไสักอย่างกับห้องของคุณแล้วเจ้าพวกของที่คอยกวนใจคุณเป็นเหมือนภาระ หนักของจิตใจคุณ จัดการจัดห้องให้เป็นระเบียบและเก็บมันไปให้พ้นหูพ้นตา หาของประดับห้องให้มีความรื่นรมณ์มากขึ้น คุณอาจยอมเสียเงินซื้อเครื่องฟอกอากาศสักเครื่อง หรือเทียนหอมมาจุด ก็ช่วยให้คุณผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังเป็นการเพิ่มประสิทธืภาพในการทำงานของคุณอีกด้วย

3.   การทำสมาธิ - ระหว่างที่เรามีสมาธิ จิตของเราจะอยู่ในความเงียบ สงบ และรู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริง การทำสมาธิสอนให้เรารู้จักจัดระเบียบของความคิดที่ยุ่งเหยิงของเรา ขณะที่มีสมาธิ จิตของเราจะหยุดนิ่ง ซึ่งนำมาซึ่งความสงบและความเบิกบาน การทำสมาธิจึงเป็นการผ่อนคลายที่ดีที่สุด คุณลองหาเวลาวันละ 10 - 15 นาทีเพื่อทำสมาธิ แล้วคุณจะรู้ว่าโลกแห่งความสงบและผ่อนคลายที่แท้จริงเป็นอย่างไร

4.   ช้าๆได้พร้าเล่มงาม - การผ่อนคลายไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องปล่อยกายปล่อบใจอยู่ในสปา หรือบนชายหาดตลอดทั้งวัน เราจะต้องเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายท่านกลางกิจกรรมปกติของเรา การจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะทำอย่างเป็นระบบ ทำงานเป็นขั้นเป็นตอน จะช่วยให้คุณทำงานสบายขึ้น และได้ผลงานที่มากขึ้น ในขณะที่คุญทำหลายสิ่งในเวลาเดียวกัน ความสบสนวุ่นวายก็จะเกิดขึ้น แล้วคุณก็จะไม่รู้สึกถึงการผ่อนคลายได้เลย เริ่มทำงานที่สำคัญมากที่สุดและเร่งที่สุดก่อน และวค่อยๆทำงานที่สำคัญลอองลงมา ค่อยๆทำอย่างรอบคอบ อย่ากดดันตัวเองให้ต้องทำงานให้มากที่สุด การทำวิธีนี้จะช่วยให้คุณทำงานถูกต้องมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสบายใจมีมากขึ้น นี่แหละคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่สำหรับคุณ

5.   อย่าขึ้นผูกติดกับความคิดเห็นของคนอื่น - บ่อยแค่ไหนที่คุณยึดติดกับความคิดของคนอื่น ตอนที่เรากังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร จะพูดอน่างไร นั้นก็คือเราได้สร้างภารทางใจให้กับตัวเอง เพราะลึกๆแล้ว เราพยายามต้องสนองความต้องการของคนอื่นอยู่ เราก็จะกดดันตัวเองและก็จะไม่มีทางที่จะผ่อนคลายเลย คุณรู้ไหมว่า คนอื่นก็มักจะคอยจับผิดเรา เราจะไม่มีทางดีพอสำหรับคนอื่นได้ ดังนั้น จงอย่าผูกติดตัวเองกับคำวิภากษ์วิจารณ์ของคนอื่นไม่ว่าจะเป็นในทางบวกหรือลบ
ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สนใจความคิด เห็นของคนอื่น แต่หมายความว่า เราอย่าาทำให้ตัวเราต้องรู้สึกสนวุ่นวายใจเพียงเพราะความเห็นของคนอื่น เรารับฟังและนำมาคิดด้วยสติอย่างมีเหตุมีผล มันอาจจะทำยาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะรู้ว่าคุณยึดติดกับความคิดผู้อื่นน้อยลงเรื่อยๆ

6.   ให้เวลากับตัวเอง - แบ่งเวลางานและเวลาส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจน มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คุณจะว่างตลอด 24 ชั่วดมงเพื่อใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า หัวหน้า หรือแม้กระทั่งเพื่อน จงรับโทรศัพท์หรือตอบ email ลูกค้า หรือหัวหน้าในเวลทำงานเท่านั้น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งกวนใจ และบั่นทอนพลังกายและใจของคุณ

7.   การเปลี่ยนแปลงก็ดีไม่แพ้การพักผ่อน - ชีวิตเราคงไม่ดีแน่ถ้าเหมืนละครที่เล่นซ่ำไปซ่ำมา ถ้าคุณพบว่าคุณติดอยู่ในบ่วงของการทำสิ่งที่จำเจทุกวัน ถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างแล้วหล่ะ เช่น ถ้าคุณดูโทรทัศน์หรือท่องอินเตอร์เน็ตหลังอาหารเย็นทุกวัน วันนี้คุณลองเปลี่ยนมาเดินเล่นรอบหมู่บ้านดูบ้าง การได้ทำสิ่งอะไรใหม่ๆ พบเห็นสิ่งใหม่ๆ จะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้อย่างไม่รู้ตัว

การผ่อนคลายง่ายเหมือนแค่การหายใจ
เมื่อใดที่คุณรู้สึกเครียดหรือกดดัน คุณลองกำหนดลมหายใจเข้า-ออก หายใจอย่างนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ แค่นี้คุณก็จะรู้สึกถึงความผ่อนคลายได้ไม่ยาก

9/11/2009

หน้าที่ กับ หน้าตา

หน้าตาเป็นสิ่งที่เลือกไม่ได้ ว่าต้องมีหน้าตาอย่างนั้น อย่างนี้ หรือจะตกแต่งให้สวย หล่อ งาม อย่างไรนั้น อาจจะพอแต่งได้ แต่แล้ว ก็กลับมาเหมือนเดิม เมื่อล้าง เมื่อเปลี่ยนสภาพ ชรา แก่เฒ่าไป หรือมีโรคภัย เบียดเบียน 


แต่สิ่งที่สามารถดำรง คงมั่น ยั่งยืน หรือ สามารถพัฒนาเปลี่ยนแปลง เลือกได้ ทำได้ ศัลยกรรม ตกแต่ง ให้งดงาม เลื่องลือได้ ให้คนยกย่องได้จริง ๆ คือหน้าที่ 

หน้าที่มี ๒ ประเภท คือ หน้าที่โดยแต่ง กับ หน้าที่ อัตตโนมัติ

 หน้าที่โดยแต่ง คือ แต่งตั้งให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้แล้วแต่จะแต่ง แล้วแต่งจะตั้ง (เป็นนายก เป็น หัวหน้า เป็น นาย เป็นบ่าว เป็นรัฐมนตรี เป็นต้น เป็นหน้าที่โดยแต่ง โดยตั้ง) 
  
หน้าที่โดยอัตตโนมัติ เช่น หน้าที่มนุษย์ หน้าที่พ่อ หน้าที่แม่ หน้าที่ผัว หน้าที่เมีย หน้าที่ลูก เป็นต้น เป็นหน้าที่โดยอัตตโนมัติ คือ เมื่อเกิดมาก็ต้องเป็น ไม่เป็นไม่ได้ ทั้ง ๒ นั้น เหมือนกันตรงที่ต้องทำหน้าที่ของตนทั้งสิ้น 
  
แต่ แต่ละคนกลับทำไม่เเหมือนกัน ดังจะว่าต่อไปนี้ 


หน้าที่ดีก็มีหน้าชูราศี 
หน้าตาดีแต่ขี้เกียจ คนเหยียดหยาม 
หน้าที่นั้น สำคัญกว่า คนหน้างาม 
หน้าตาดี หน้าที่ทราม ไม่งามเลย 

หน้าที่ของมนุษย์ ต้องศึกษา 
หน้าที่พ่อค้า ต้องรู้จักผลกำไร 
หน้าที่ศิลปิน ต้องรู้จักศิลปะ 
หน้าที่ของพระ ต้องรู้จักสอนมนุษย์ 
หน้าที่ชาวพุทธ ต้องรู้จักปฏิบัติ 
หน้าที่ของผู้นำ ต้องรู้จักวินัย 
หน้าที่ของผู้ใหญ่ ต้องรู้จักพรหมวิหาร 
หน้าที่ของสมภาร ต้องรู้จักปกครอง 
หน้าที่ของน้อง ต้องรู้จักเคารพพี่ 
หน้าที่ของคนดี ต้องรู้จักเว้นชั่ว 
หน้าที่ของคนกล้า ต้องรู้จักความจริง 
หน้าที่ของผู้หญิง ต้องรู้จักการเรือน 
หน้าที่ของเพื่อน ต้องรู้จักเกรงใจ 
หน้าที่ของคนใช้ ต้องรู้จักเจ้านาย 
หน้าที่ของคนใกล้ตาย ต้องรู้จักพุทโธ 
หน้าที่ของคนใกล้บวช ต้องรู้จักอุปัชฌาย์ 


ที่มา : แว่วมา กับเสียงธรรม(พระมหาสถาพร)

สูตรคำนวณขนาดเจ้าโลกของผู้ชาย

ฮือฮานักวิจัยคิดค้นสูตรคำนวณขนาดเจ้าโลกของผู้ชายแต่ละคนได้ สัมพันธ์กับความยาวของเท้า สูตรที่ว่าคือ ขนาดเท้าหน่วยเป็นเซนติเมตร บวกด้วย 5 แล้วหาร 2 จะออกมาเป็นขนาดเจ้าโลกหน่วยเป็นเซนติเมตร

น.ส.พ.รัสเซียระบุความเชื่อเก่าแก่ของผู้หญิงในเรื่องนี้ ถือว่ามีหลักฐานเป็นสมการทางคณิตศาสตร์ออกมารองรับเรียบร้อยแล้ว เผยก้าวต่อไปของการวิจัยคำนวณความกว้างของเจ้าโลกจากความกว้างของเท้า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐยันเคยวิจัยเรื่องนี้แล้ว ไม่พบความยาวของเท้าคนสัมพันธ์กับเจ้าโลกแม้แต่นิดเดียว

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. หนังสือพิมพ์ปราฟดาออนไลน์ ประเทศรัสเซีย รายงานว่า ความเชื่อของผู้หญิงที่มักแนะนำให้ผู้หญิงด้วยกันสังเกตดูขนาดเท้าของผู้ชาย เพื่อเปรียบเทียบกับขนาดของอวัยวะเพศของเจ้าของเท้าคนนั้นๆ มีหลักฐานสมการทางคณิตศาสตร์ออกมารองรับแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า มีความเชื่อกันมานานว่าถ้าผู้ชายคนไหนมีเท้าใหญ่มากเท่าไหร่ หมายความว่าอวัยวะเพศชายจะยิ่งยาวมากเท่านั้น ล่าสุด กลุ่มนักวิจัยนานาชาติได้สำรวจเก็บสถิติในหมู่ผู้ชายหลายประเทศ รวมทั้งผู้ชายรัสเซีย เพื่อคิดสมการคณิตศาสตร์พิสูจน์ความเชื่อดังกล่าว และพบว่าขนาดของเท้ากับขนาดของอวัยวะเพศชายมีความสัมพันธ์กันจริง

สำหรับสมการดังกล่าวเขียนออกมาว่า "H= (L+5)/2" หรือ "เอช= (แอล+5)หาร2 "

โดยตัวอักษรแอล คือ ตัวแปรของขนาดความยาวของเท้า ซึ่งวัดหน่วยความยาวออกมาเป็นเซนติเมตร

เมื่อได้ตัวเลขเรียบร้อยแล้วนำมาบวกด้วย 5 และนำไปหารด้วย 2 จะได้ผลลัพธ์ของตัวอักษรเอช ซึ่งก็คือขนาดความยาวอวัยวะเพศชายโดยประมาณ

รายงานยกตัวอย่างการคิดสมการว่า ถ้าผู้ชายคนหนึ่งสวมรองเท้าเบอร์ 41 หรือราว 25 เซนติเมตร จะเขียนสมการได้ว่า H=(25+5)/2

ดังนั้นคำตอบของสมการข้อนี้ คือ 15 เซนติเมตร ซึ่งบ่งบอกถึงขนาดความยาวอวัยวะเพศของเจ้าของเท้าผู้ชายคนนี้

นอกจากนั้น ถ้าคำนวณด้วยสมการชุดเดียวกัน ผู้ชายใส่รองเท้าเบอร์ 43 จะมีขนาดอวัยวะเพศยาว 18.4 เซนติเมตร ผู้ชายใส่รองเท้าเบอร์ 44 ยาว 21.6 เซนติเมตร และผู้ชายใส่รองเท้าเบอร์ 45 ยาว 24.4 เซนติเมตร เป็นต้น

สมการข้างต้นนับว่ามีความสัมพันธ์กับลักษณะการเจริญเติบโตทางกายภาพของมนุษย์ เนื่องจากในช่วงที่ตัวอ่อนทารกเพศชายยังอยู่ในครรภ์มารดานั้น พัฒนาการการเจริญเติบโตของอวัยวะเพศ รวมทั้งมือและเท้าจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน และการเจริญเติบโตของอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของอวัยวะอื่น

"ปัจจุบัน คณะนักวิจัยกำลังศึกษาหาสูตรการคำนวณขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของอวัยวะเพศชาย โดยดูจากขนาดความกว้างของเท้าผู้ชาย" รายงานข่าวระบุ

ทั้งนี้ สำนักข่าว "เอ็นบีซี5" ของสหรัฐอเมริกาเคยรายงานข่าวเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องการเปรียบเทียบขนาดของเท้ากับอวัยวะเพศของผู้ชายด้วยว่า ดร.เกร็ก เบลส์ ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินปัสสาวะ มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐฯ
เคยตีพิมพ์ผลการวิจัยลงในวารสารการแพทย์ "British Journal of Urology International" ของอังกฤษ ว่า
ขนาดของเท้า รวมถึงอวัยวะส่วนอื่นๆในร่างกายผู้ชาย อาทิ มือ นิ้ว และจมูก ไม่มีส่วนสัมพันธ์กับขนาดของอวัยวะเพศชายอย่างที่มีความเชื่อกันมานาน การศึกษาครั้งนี้ทำโดยการวัดขนาดเท้าของผู้ชายที่ใส่รองเท้าเบอร์ 43-48 ครึ่ง และนำมาเทียบกับขนาดอวัยวะเพศ ปรากฏว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเลย

สำหรับขนาดรองเท้า ตามค่ามาตรฐานยุโรป เทียบหน่วยความยาวของเท้าเป็นเซนติเมตรนั้น สามารถเปรียบเทียบได้ดังนี้

เบอร์ 38 ความยาวเท่ากับ 24.5 เซนติเมตร

เบอร์ 38.5 เท่ากับ 24.8 เซนติเมตร

เบอร์ 39 เท่ากับ 25.1 เซนติเมตร

เบอร์ 40 เท่ากับ 25.4 เซนติเมตร

เบอร์ 41 เท่ากับ 25.7 เซนติเมตร

เบอร์ 42 เท่ากับ 26 เซนติเมตร

เบอร์ 43 เท่ากับ 26.7 เซนติเมตร

เบอร์ 44 เท่ากับ 27.3 เซนติเมตร

เบอร์ 45 เท่ากับ 27.9 เซนติเมตร

เบอร์ 46.5 เท่ากับ 28.6 เซนติเมตร

และเบอร์ 48.5 เท่ากับ 29.2 เซนติเมตร

อันนี้จะเชื่อได้หรือไม่ หนุ่มๆ คงต้องพิสูจน์กันเอง แล้วจะรู้นะคะ ^_^

ที่มาข่าว

9/10/2009

ปากแห้งแตกเป็นขุย...รักษาได้อย่างไร

ปากหวานคืออาการของคนพูดจาไพเราะ ฟังเพราะเสนาะโสต แต่ถ้าหากเกิดอาการปากแห้งขึ้นมา ขอบอกให้คุณทราบก่อนเลยว่า ไม่เกี่ยวกับปากหวานเป็นแน่แล้วปากแห้งเกิดจากอะไรล่ะ? 

     อาการปากแห้ง นั้นเกิดจากการดื่มน้ำน้อย ความเครียด การพูดเป็นเวลานานๆ การรับประทานยารักษาโรคบางชนิด หรือการรับรังสีเพื่อการรักษาโรค 

     เมื่อคุณมีอาการริมฝีปากแห้งต้องรีบรักษา เพราะปากมีไว้เจรจาเป็นอวัยวะที่มีเสน่ห์ สร้างความประทับใจ หากปล่อยทิ้งไว้ให้อาการรุนแรงจนริมฝีปากแห้งแตกลอกเป็นขุยหนักเข้าจนปากเริ่มเจ่อบวมแดง นอกจากจะก่อให้เกิดอาการเจ็บแสบในยามที่คุณแย้มยิ้มหรือในขณะรับประทานอาหารรสชาติร้อนแรงแล้วนั้น ยังเป็นตัวการสำคัญที่จะทำลายบุคลิกภาพของคุณโดยไม่รู้ตัว  เพราะในคนที่มีอาการริมฝีปากแห้งจนเป็นคราบขาว ปากแห้งมากจนน้ำลายเหนียว เจ้าเชื้อโรคตัวร้ายในช่องปากจะเติบโตเป็นจำนวนมากก่อให้เกิดกลิ่นปากตามมาได้ (แล้วอย่างนี้ใครล่ะจะกล้าจุมพิต) 

เมื่อปากแห้งแตกเป็นขุย...รักษาได้อย่างไร? 

     สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ หรือจิบน้ำอุ่นๆ บ่อยๆ จะเป็นการดี หากปากแห้งมากจนลอกเป็นขุย ให้ใช้น้ำอุ่น ผสมเกลือป่นเล็กน้อย แล้วใช้สำลีหรือทิชชูชุบน้ำอุ่นผสมเกลือป่นให้เปียกพอหมาดๆ แล้วใช้ปากคาบทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที หรือเช็ดไล้เบาๆ ไปบนริมฝีปาก ก็จะช่วยให้ขุยต่างๆ หลุดลอกออกไปได้ หมั่นทาลิปมันที่มีส่วนผสมของสารบำรุง หรือถ้าปากแห้งมากแนะนำให้ใช้ปิโตเลี่ยมเจล (มีลักษณะเป็นเจลใสคล้ายขี้ผึ้ง) ทาบนริมฝีปากได้บ่อยครั้งตามต้องการ